นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือนพ.ค.65 เท่ากับ 106.62 เพิ่มขึ้น 1.40% เทียบกับ เม.ย.65 และเพิ่มขึ้น 7.10% เทียบกับเดือน พ.ค.64 ซึ่งทำสถิติสูงสุดรอบ 13 ปี ส่วนเงินเฟ้อรวม 5 เดือนปี 65 (ม.ค.-พ.ค.) เพิ่มขึ้น 5.19% และเงินเฟ้อพื้นฐาน ที่หักอาหารสดและพลังงานที่มีความผันผวนด้านราคาออก ดัชนีอยู่ที่ 102.74 เพิ่มขึ้น 0.17% เมื่อเทียบกับเดือน เม.ย.65 และเพิ่มขึ้น 2.28% เมื่อเทียบกับเดือน พ.ค.64 หรือเฉลี่ย 5 เดือนเพิ่มขึ้น 1.72%
ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น ปัจจัยหลักยังคงเป็นราคาพลังงานและอาหารที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยมีสินค้าที่ราคาสูงขึ้น 298 รายการ เช่น ค่ากระแสไฟฟ้า น้ำมันเชื้อเพลิง เนื้อสุกร กับข้าวสำเร็จรูป อาหารกลางวันข้าวราดแกง ไข่ไก่ อาหารเช้า ค่าน้ำประปา ไก่สด เป็นต้น สินค้าไม่เปลี่ยนแปลง 54 รายการ เช่น ค่าโดยสารรถไฟลอยฟ้า ค่าใบอนุญาตขับขี่ ค่าภาษีรถยนต์ประจำปี และราคาลดลง 78 รายการ เช่น ข้าวสารเหนียว ข้าวสารเจ้า ขิง กล้วยหอม ต้นหอม มะเขือเทศ ค่าเช่าบ้าน ผักกาดขาว และถั่วฝักยาว เป็นต้น
“หากแยกเป็นสินค้ากลุ่มพลังงาน เพิ่ม 37.24% โดยเฉพาะราคาน้ำมันเชื้อเพลิง เพิ่มถึง 35.89% สูงขึ้นตามตลาดโลก ก๊าซหุงต้มเพิ่ม 8% จากการยกเลิกการตรึงราคาก๊าซหุงต้ม และค่ากระแสไฟฟ้าเพิ่ม 45.43% จากการปรับเพิ่มค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) รอบเดือน พ.ค.-ส.ค.65 ส่วนกลุ่มอาหารเพิ่ม 6.18% เช่น เนื้อสุกร ไก่สด ไข่ไก่ ผักสด ค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล แชมพู ยาสีฟัน สบู่ถูตัว ราคาปรับขึ้นเนื่องจากสิ้นสุดโปรโมชั่น ขณะที่สิ่งที่เกี่ยวกับทำความสะอาด น้ำยาล้างจาน น้ำยารีดผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม ยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ บุหรี่ ราคาทยอยปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย” คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
นายรณรงค์ กล่าวว่า เงินเฟ้อเดือน มิ.ย.65 มีแนวโน้มเพิ่ม จากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงมีการขยายเพดานการตรึงดีเซล การปรับราคาก๊าซหุงต้ม ค่าไฟฟ้า ขณะที่สินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะอาหารสดและอาหารสำเร็จรูปที่ปรับราคาสูงขึ้นตามต้นทุนการผลิต ตลอดจนต้นทุนการขนส่งและโลจิสติกส์ การระงับการส่งออกสินค้าในหลายประเทศ และอุปสงค์ที่เริ่มฟื้นตัวจากภาคการท่องเที่ยว และการส่งออก จะเป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เงินเฟ้อทั่วไปของไทยยังคงเพิ่มขึ้น
สำหรับเป้าหมายเงินเฟ้อทั้งปี กระทรวงพาณิชย์ คาดการณ์จะเคลื่อนไหวในกรอบ 4-5% ค่ากลางอยู่ที่ 4.5% ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ และไทยจะไม่อยู่ในกลุ่มประเทศที่มีเงินเฟ้อต่ำ ซึ่งจากการประเมินตอนนี้ ไม่น่าจะเกิน 6-7% ภายใต้โจทย์น้ำมันสูง แต่ไทยยังอยู่ในกลุ่มประเทศที่เงินเฟ้อต่ำ อาจจะไม่ต่ำที่สุด โดย สนค.จะติดตามสถานการณ์ต่อไป และหากมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ก็จะมีการทบทวนเป้าหมายเงินเฟ้ออีกครั้ง คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง