ราคาน้ำมันดิบร่วง คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยฉุดเศรษฐกิจชะลอ

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กลดลง จากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว โดยตลาดกังวลว่าการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน

ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 87 เซนต์ หรือ 1.18% ปิดที่ 72.99 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ลดลง 78 เซนต์ หรือ 0.99% ปิดที่ 77.69 ดอลลาร์/บาร์เรล

ฝ่ายแผนและบริหารบริษัทในเครือ หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT รานยงานว่าราคาน้ำมันดิบ ICE Brent เฉลี่ยรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 2.47 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยได้รับแรงหนุนจากกระทรวงพลังงานของสหรัฐฯ (Department of Energy: DOE) ประกาศซื้อน้ำมันดิบปริมาณ 6 ล้านบาร์เรล ส่งมอบเดือน ต.ค. – พ.ย. 2566 เพื่อเติมคลังสำรองปิโตรเลียมเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve: SPR)

ทั้งนี้ในเดือน มี.ค. 2566 DOE ได้ประกาศจัดซื้อน้ำมันดิบเข้าคลัง SPR ไปแล้วปริมาณรวม 3.2 ล้านบาร์เรล สำหรับส่งมอบในเดือน ก.ย. 66 ที่ราคา 71.98 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และมีปริมาณสำรองน้ำมันดิบใน SPR สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 2566 ปริมาณ 347 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดตั้งแต่ปี 2526 โดยคาดว่าในปี 2566 จะเข้าซื้อทั้งหมดประมาณ 12 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันโลกแนวโน้มขยับขึ้น จากผลกระทบโอเปกพลัสหั่นกำลังผลิต

ค่าเงินบาทวันนี้ แข็งค่าหลุด 35 นักลงทุนคาดเฟดใกล้ยุติขึ้นดอกเบี้ย

ทางด้านเศรษฐกิจ สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (National Bureau of Statistics: NBS) รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index – CPI บ่งชี้อัตราเงินเฟ้อ) ในเดือน มิ.ย. 2566 อยู่ที่ +0% จากปีก่อน ต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ +0.2% จากปีก่อน (เดือน พ.ค. 66 อยู่ที่ +0.2% จากปีก่อน)

จับตาข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ อาทิ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือน มิ.ย. 2566 เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ล่าสุด ธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่า Fed อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 2 ครั้ง ภายในปี 2566 ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของ Fed สูงถึงระดับ 5.50-5.75%

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก

  • เจ้าชาย Abdulaziz bin Salman รัฐมนตรีกระทรวงพลังงงานของซาอุดีอาระเบีย ประกาศขยายระยะเวลามาตรการลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบโดยสมัครใจ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเดือน ก.คคำพูดจาก เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด. 2566 ออกไปจนถึงเดือน ส.ค. 2566 ทำให้ซาอุดีอาระเบียจะผลิตน้ำมันดิบในเดือน ก.ค. – ส.ค. 2566 ที่ระดับ 9 ล้านบาร์เรลต่อวัน
  • รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย นาย Alexander Novak ประกาศลดปริมาณส่งออกน้ำมันดิบลง 500,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน ส.ค. 2566
  • Reuters รายงานรัสเซียส่งออกน้ำมันดิบทางทะเล ในเดือน มิ.ย. 2566 ลดลงจากเดือนก่อน 10% อยู่ที่ 3.46 ล้านบาร์เรลต่อวัน ต่ำสุดตั้งแต่เดือน ก.พ. 66 อย่างไรก็ตามเหนือระดับ 3.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ก่อนเกิดสงครามในยูเครนในวันที่ 24 ก.พ. 2565
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานยอดจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) ในเดือน มิ.ย. 2566 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 209,000 ราย (นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ +225,000 ราย จากเดือนก่อน) ขณะที่อัตราว่างงาน (Unemployment Rate) ลดลงจากเดือนก่อน 0.1% อยู่ที่ 3.6%

 ราคาน้ำมันดิบร่วง คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยฉุดเศรษฐกิจชะลอ

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ

  • นักวิเคราะห์ Morgan Stanley ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ Brent ในไตรมาส 3/2566 ลง อยู่ที่ 75 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล (เดิม 77.50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล) และไตรมาส 4/2566 อยู่ที่ 70 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล (เดิม 75 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล) เนื่องจากอุปทานจากกลุ่ม OPEC โดยเฉพาะอิหร่านและเวเนซุเอลาเพิ่มสูงขึ้น
  • OPEC คาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกในปี 2567 จะเติบโตประมาณ 1.5 – 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปีก่อน นำโดยอุปสงค์น้ำมันจากเอเชีย อาทิ จีน และอินเดีย อย่างไรก็ดี เติบโตน้อยกว่าปี 2566 จากธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย กดดันเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน (รายงานฉบับเดือน มิ.ย. 2566 ของ OPEC คาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกปี 2566 เพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปีก่อน อยู่ที่ 101.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน)

By admin

Related Post