ครม.ไฟเขียวจ่ายเงินชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่
รู้วันโอนเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท พร้อมวิธีเช็กเข้าบัญชี
จากกรณีธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แสดงความเห็นถึงโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการ และพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ที่จ่ายเงินชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ว่าโครงการดังกล่าวมีความจำเป็นลดลง เนื่องจากราคาข้าวในปัจจุบันอยู่ในระดับสูง และราคาปุ๋ยก็ปรับลดลงต่อเนื่อง
ล่าสุดนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุถึงประเด็นดังกล่าวว่า ในปี 65 ที่ผ่านมา ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ข้าวเปลือกเหนียว และ ข้าวเปลือกหอมมะลิ มีราคาที่ไม่ดี
ซึ่งรัฐบาลชุดที่ผ่านมาจึงใช้เงินอุดหนุนช่วยเหลือชาวนาเกือบ 150,000 ล้านบาท และจำนวนนี้ราวกว่า 86,000 ล้านบาท ใช้ในการประกันราคาข้าวเปลือก คือ ถ้าราคาข้าวต่ำกว่าราคาที่ประกันไว้ ให้รับเงินส่วนต่างกับรัฐบาล
ขณะเดียวกันปีที่ผ่านมา ได้มีการให้เงินสนับสนุนค่าบริหารจัดการ และพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เหมือนกับครั้งล่าสุดนี้ โดยขอเรียนว่าเงินที่ชาวนาได้จากการขายข้าวเปลือกในปีนี้ แม้ว่าจะสูงกว่า แต่ปีที่ผ่านมาชาวนาได้เงินอุดหนุนจากการประกันราคาด้วย ทำให้เงินที่ชาวนาได้จากปี 65 และปี 66 จึงใกล้เคียงกัน เพราะว่าปีนี้รัฐบาลไม่ได้มีการประกันราคาข้าวเปลือก
อย่างไรก็ตามปีนี้มีสิ่งที่แย่กว่าคือ ตั้งแต่ปลายเดือน ต.คคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. จนถึง พ.ย.66 เป็นช่วงที่ข้าวเปลือกหอมมะลิกำลังจะออกตลาด และมีราคาปีนี้มีใกล้เคียงกับปี 65 แต่เวลารับซื้อจริง ข้าวเปลือกที่ความชื้น 15% ราคาอยู่ที่ 14,500 -15,000 บาท แต่ชาวนาเก็บเกี่ยวข้าวได้ที่ความชื้น 25% ซึ่งโรงสีจะรับซื้ออยู่ที่ 10,800 บาท ส่งผลให้ชาวนาได้เงินน้อยกว่าเดิม
“10,800 ความชื้น 25% ก็แปลว่ามีเนื้อข้าว 75% ตันหนึ่งมีเนื้อข้าวจริง ตัดความชื้อลดจาก 25% เหลือ 15% จะเหลือ 750 กิโลกรัม ถ้าหารออกมาแล้ว เทียบเป็นราคาข้าวหอมมะลิต่อตันที่ ความชื้น 15% จะตกอยู่ที่ 12,200 บาท ก็คือราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ ชาวนาขายได้น้อยลงกว่าเดิม และไม่มีเงินประกันด้วยปีนี้”
ทั้งนี้ราคาข้าวเปลือกที่ปรับขึ้นมีแค่บางชนิดเท่านั้น ยกเว้นข้าวหอมมะลิ และต้นทุนการผลิตที่ ธปท.มองว่าอยู่ในระดับต่ำนั้น ข้อเท็จจริง คือ ราคาปุ๋ยที่ปรับลดลงมีเพียงชนิดเดียว และอีก 3 ชนิดราคาแพงกว่าปีที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นต้นทุนค่าปุ๋ยและค่าน้ำมันจึงปรับสูงขึ้นกว่าปี 65 ดังนั้นความเห็นของ ธปท. จึงไม่สอดคล้องกับความจริง
นายชัย กล่าวต่อว่า ข้อมูลที่เกี่ยวกับเกษตรกร เกี่ยวกับชาวนา กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร มีข้อมูลที่ละเอียดในเชิงลึกมากกว่าข้อมูลของ ธปท. ที่อาจจะดูรายงานแบบกว้าง ๆ ไม่ได้เจาะลึกเหมือนหน่วยงานที่ดูแลโดยตรง นอกจากนี้ปีที่ผ่านมา รัฐบาลชุดก่อนก็มีโครงการในลักษณะเดียวกัน แต่ ธปท.กลับไม่มีความเห็นท้วงติงออกมาเหมือนในปีนี้
“ปีที่แล้วก็มีโครงการไร่ละพัน รายละไม่เกิน 20 ไร่ เหมือนปีนี้เลย แต่ปีที่แล้ว ธปท.ไม่มีความเห็น ไม่ได้ออกมามีหนังสือเปิดผนึก โต้แย้งว่าไม่ควรทำ อันนี้ก็เป็นเรื่องที่ผมค่อนข้างจะแปลกใจ เรื่องแบบเดียวกันเลย ตัวหนังสือแทบจะลอกกันเลย แต่ปีที่แล้วไม่ท้วงติง ไม่แสดงความเห็น ไม่ปรากฏในรายงานการประชุม แต่ปีนี้มี และเป็นข่าวด้วย”
โฆษกรัฐบาลระบุอีกว่า เรื่องนโยบายการคลังเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลที่จะดูแลชีวิตความเป็นอยู่ รายได้ทางเศรษฐกิจของชาวนา ส่วนความเห็นของ ธปท.รัฐบาลน้อมรับฟัง แต่ ธทป.มีหน้าที่ดูแลด้านการเงิน ส่วนโครงการช่วยชาวนา เป็นเรื่องที่รัฐบาลมีรายละเอียดอยู่แล้ว และได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วน ดังนั้นรัฐบาลพร้อมรับฟังในเรื่องที่หน่วยงานนั้นมีบทบาทหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรง ส่วนเรื่องที่นอกเหนือจากการเงิน ขอให้หน่วยงานรัฐที่มีข้อมูลเชิงลึกเป็นผู้พิจารณาและตัดสินใจ
“ธทป.มีหน้าที่ดูแลด้านการเงิน หากมีหนังสือทวงติง หรือแสดงความเห็น เช่น อัตราดอกเบี้ยที่ควรจะคิด ควรจะเป็นเท่าไหร่ ระยะเวลาคืนเงินต้นควรจะเป็นเท่าไหร่ หลักประกันความเสี่ยงปล่อยสินเชื่อให้ชาวนา ควรจะเป็นอย่างไร อย่างนี้เป็นบทบาทหน้าที่โดยตรงของทาง ธปท. แต่โครงการควรจะช่วยชาวนาหรือไม่ ช่วยในหลักเกณฑ์เท่าไหร่ ต้นทุนแพลงขึ้นหรือถูกลง ราคาข้าวเปลือกเป็นอย่างไร เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลมีรายละเอียดอยู่ในมือ และพิจารณาอย่างถี่ถ้วน”
รู้วันโอนเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท พร้อมวิธีเช็กเข้าบัญชี
อัปเดต! ปฏิทินวันหยุด 2567 เช็กวันหยุดราชการ-วันหยุดธนาคาร
เช็กสถิติบอลไทย พบ สิงคโปร์ ก่อนดวลฟุตบอลโลก 2026 โซนเอเชีย