แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 6 – 0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

By Max Oct 30, 2024

วัน อังคารที่ 4 เมษายน 2006
ผู้ทำประตู แคมป์เบลล์ น. 3, 21, 38, 65, รอสซี่ น. 10, นอยมาร์ น. 49
ปิศาจแดง เข้าใกล้แชมป์ลีกของทีมสำรองหลังจากไล่ถล่มแมนเชสเตอร์ ซิตี้
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโอกาสมากทีเดียวในการเป็นสโมสรแรกที่สามารถป้องกันแชมป์เอฟเอ พรีเมียร์ รีเสิร์ฟ ลีก ได้สำเร็จ หลังจากเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่แค้นร่วมเมืองได้อย่างถล่มทลายในเกมที่ทีมสำรองลงเล่นในบ้านเป็นนัดสุดท้ายของฤดูกาลนี้
4 ประตูจากเฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ และอีกคนละประตูจากจูเซ็ปเป้ รอสซี่ และมาร์คุส นอยมาร์ ฝังลูกทีมของสตีฟ วิกลี่ย์ และช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงรักษาช่องว่าง 6 คะแนนเหนือกว่าแอสตัน วิลล่า ผู้ท้าชิงแชมป์ลีกสำรอง
นอกจากการกลับมาของโจนาธาน อีแวนส์ ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟแล้ว เรเน่ เมลเลนสทีน โค้ชทีมสำรองยังคงใช้ผู้เล่นตัวจริงชุดเดียวกับที่เอาชนะเวสต์ บรอม 2-0 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งชัยชนะในเกมนั้นเป็นชัยชนะครั้งแรกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในรอบ 5 นัด และทำให้ความมั่นใจกลับคืนมาอีกครั้ง
เคราร์ด ปิเก้ ลงเล่นเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟจับคู่กับโจนาธาน อีแวนส์ ซึ่งได้กลับมาเป็นผู้เล่นตัวจริงหลังหายจากอาการบาดเจ็บที่โคนขาหนีบโดยลงเล่นแทนที่ของไรอัน ชอว์ครอส
ลุค สตีล ยังคงเป็นผู้รักษาประตู โดยแผงกองหลังที่เหลืออีก 2 คนในตำแหน่งฟลูแบ็คคือ ฟิล มาร์ช และแดนนี่ โรส
ดาร์รอน กิ๊บสัน และริทชี่ โจนส์ ลงเล่นเป็นมิดฟิลด์คู่กลาง ในขณะที่มาร์คุส นอยมาร์ และเจมี่ มัลแลน ลงเล่นเป็นตัวริมเส้น
เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ จับคู่กับจูเซ็ปเป้ รอสซี่ ในแผงกองหน้า โดยแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องการคว้าชัยชนะเพื่อขยับเข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์มากขึ้น
ปิศาจแดง เปิดฉากเดินเกมรุกได้ดีกว่าตั้งแต่ต้นเกมและเข้าถึงบอลได้เร็วกว่าทุกครั้ง และพวกเขาก็ทำประตูขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็วเมื่อเกมผ่านไปได้ไม่ถึง 3 นาทีเต็ม
นอยมาร์ เปิดบอลข้ามแผงกองหลังของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ให้แคมป์เบลล์ วิ่งลุยเดี่ยวไปถึงบอลก่อนที่จะจิ้มบอลผ่านมือนิคกี้ วีเวอร์ ผู้รักษาประตูประสบการณ์สูงของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เข้าประตูไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำไปแล้ว 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 3
แคมป์เบลล์ เกือบจะทำประตูที่ 2 ให้กับตัวเองได้จากลูกโหม่งในอีก 5 นาทีต่อมา แต่แล้วแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็มาได้ประตูที่ 2 จนได้ในนาทีที่ 10
จากลูกเตะมุม นอยมาร์ เปิดบอลไปที่เสาใกล้ให้รอสซี่ พุ่งเข้ายิงจ่อๆ เข้าประตูไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำเป็น 2-0 ในนาทีที่ 10
ทีมเยือนยังคงตั้งเกมไม่ติด ในขณะที่เจ้าถิ่นก็ยังคงเดินหน้าบุกกระหน่ำต่อไป และแคมป์เบลล์ ก็มาทำประตูที่ 2 ของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยมในอีก 11 นาทีต่อมา
กิ๊บสัน เปิดบอลยาวไปให้กับแคมป์เบลล์ งัดบอลข้ามหัวชาเลียม โลแกน กองหลังของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่างชาญฉลาดทำให้เขาได้หลุดเดี่ยว แต่แทนที่จะพาบอลเข้าหาประตู แคมป์เบลล์ เลือกที่จะซัดฮาล์ฟวอลเล่ย์ทันทีในจังหวะแรกด้วยเท้าซ้ายจากระยะ 20 หลา บอลพุ่งผ่านวีเวอร์ ไปชนเสาด้านในเด้งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำห่างเป็น 3-0 ในนาทีที่ 21
ก่อนจบครึ่งเวลาแรก 7 นาที แคมป์เบลล์ ก็ทำแฮททริกได้สำเร็จโดยจิ้มบอลผ่านวีเวอร์ เข้าไปตุงตาข่ายอีกครั้งจากลูกเปิดทะลุช่องของรอสซี่ ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นำห่างออกไปเป็น 4-0 ในนาทีที่ 38 ก่อนที่จะหมดเวลาในครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
แม้ว่าปิศาจแดง จะเก็บ 3 คะแนนเต็มได้ในนัดนี้แน่นอน แต่พวกเขาก็ไม่ผ่อนเกมลงเลยหลังจากพักครึ่งเวลา
ลูกจ่ายจังหวะเดียวอย่างยอดเยี่ยมของโรส และรอสซี่ ทำให้นอยมาร์ ได้หลุดขึ้นมาทางฝั่งขวาของกรอบเขตโทษ และกัปตันทีมชาวเยอรมันก็ซัดด้วยเท้าขวาส่งบอลเข้าประตูไปทางเสาไกล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทิ้งห่างเป็น 5-0 ในนาทีที่ 49
แคมป์เบลล์ ซึ่งทำแฮททริกไปแล้วยังไม่พอใจมาทำประตูที่ 4 ของตัวเองเพิ่มได้อีก โดยชิพบอลข้ามหัววีเวอร์ เข้าประตูไปอย่างสวยงามจากลูกแทงทะลุช่องอย่างแม่นยำอีกครั้งของรอสซี่ ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นำห่างสุดกู่ 6-0 ในนาทีที่ 65
หลังจากนั้นไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มได้อีก หมดเวลาการแข่งขัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไล่ถล่มเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 6-0 เป็นผลงานที่น่าจะดีที่สุดของพวกเขาในฤดูกาลนี้เลยทีเดียว และช่วยให้ผลต่างประตูในตารางคะแนนเพิ่มขึ้นไปอีกหลายประตู
มันเป็นผลงานที่ไร้ซึ่งความผิดพลาดของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มันเต็มไปด้วยความกล้าหาญ, ความสามารถ และความมุ่งมั่น พูดสั้นๆ มันคือผลงานของแชมป์นั่นเอง
รายชื่อผู้เล่นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลุค สตีล, ฟิล มาร์ช (เดวิด เกรย์ น. 73), แดนนี่ โรส, เคราร์ด ปิเก้, โจนาธาน อีแวนส์ (ไรอัน ชอว์ครอส น. 58), ดาร์รอน กิ๊บสัน, ริทชี่ โจนส์, มาร์คุส นอยมาร์, เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ (ไมเคิล บาร์นส์ น. 78), จูเซ็ปเป้ รอสซี่, เจมี่ มัลแลน
ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์, ไมเคิล ลี
DaKinG

By Max

Related Post